บทความแนะนำ

บทความ ศาสตร์แห่งดวงดาว
หลักการวางเบอร์ขั้นพื้นฐานด้วย "ดาราลัคน์ศาสตร์"
วิธีการคำนวณกำลังดวงดาว
เบอร์มงคล 100% ผลรวมดี ทั้งคู่ ทำไมคนหนึ่งชีวิตดีแต่อีกคนชีวิตแย่?!?!?
ตัวเลขส่งเสริมการเงินและโชคลาภ
กลุ่มส่งเสริมการเงิน ตัวเลขมหาอุจจ์
กลุ่มส่งเเสริมการเงิน มหาจักร
กลุ่มส่งเเสริมการเงินราชาโชค
กลุ่มแสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและรายได้
ตัวเลข ปัญหา/อุปสรรค/ศัตรู
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ความรัก และ คู่ครอง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ลูกค้าและเพื่อนฝูง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ผู้อุปถัมภ์ ความสำเร็จ และ ความรุ่งเรือง
ตัวเลข วินาสน์ (ล่มสลาย,ฉับพลัน,เปลี่ยนแปลง,ที่ลับ,คนแปลกหน้า)
ประสบการณ์ผู้ที่ใช้เบอร์พลังดวงดาวตามลัคนา และมีเงินซื้อรถ 2 คัน บ้าน 2 หลัง
Case Study : เปลี่ยนเบอร์ตามหลักศาสตร์แห่งดวงดาวแล้วขายที่ดินได้ในราคาสูง
แย่แล้ว !!! เบอร์มังกร (789) ทำฉันเป็นหนี้ !!!!
ว่าไงนะ!!! เบอร์หงส์ (289) พ่นพิษ !!! เสียบ้านที่อุตส่าห์ซื้อมา
เบอร์เสน่ห์ตามหลักเลขศาสตร์ VS เลขการเงินตามศาสตร์แห่งดวงดาว
กำลังดวงดาว 9 หมายถึงอะไร?
เบอร์มงคล 10 หลัก ผลรวมดี ทำไมชีวิตฉันจึงลำบาก!!!

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction) กับ เบอร์โทรศัพท์ ตอนที่ 1


กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction) ในทางจิตวิทยาเราพึ่งได้รู้จักกันแพร่หลายไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง เนื่องจากความดังของหนังสือ "The Secret (เดอะซีเคร็ต) ของ Rhonda Byrne (รอนดา เบิร์น)" ซึ่งจริงๆแล้ว กฎนี้ถูกใช้มานานแล้ว อาจจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม เพราะยังมีหนังสือที่กล่าวถึงเรื่องทำนองนี้ ซึ่งถูกเขียนไว้เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ของ นโปเลียน ฮิลล์ เช่น หนังสือ คิดแล้วรวย หรือ Think and grow rich , The Law of success หรือ หนังสือปรัชญาชีวิตศาสตร์แห่งความสำเร็จ  ซึ่งได้รวบรวมแนวคิดของคนประสบความสำเร็จไว้ กว่า 1,000 คน และรวบรวมไว้เป็นทฤษฎีความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจว่าผู้สำเร็จทุกคนมีส่วนคล้ายกัน คือ จะมีความคิด และ การจินตนาการถึงความสำเร็จอยู่เสมอ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction)

คุณจะได้อะไรจากการใช้หลักการของกฎแรงดึงดูด?
คำตอบคือ...คุณจะได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ หากคุณยังคงเดินตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัด...ไม่ว่าจะเป็น บ้านในฝัน รถในฝัน ฐานะทางการเงิน สุขภาพ หรือแม้แต่คู่ครอง

เชื่อได้รึ?
คำตอบคือ...
ขึ้นอยู่กับคุณ เพราะการทำอะไรโดยปราศจากความเชื่อมักจะทำสิ่งนั้นแบบครึ่งๆกลางๆ เมื่อทำแบบครึ่งๆกลางๆก็จะไม่ประสบความสำเร็จ...
แต่ถ้าหากอยากพิสูจน์ ก็สามารถพิสูจน์ได้ โดยทำเต็มที่เชื่อเต็มที่...และระบุเวลาไว้และพิจารณา

ขั้นตอนการปฏิบัติในการใช้กฏแรงดึงดูด

1. ขอ คือ
การคิดว่าอยากได้อะไร แนะนำให้ขอเพียง 1 ข้อเท่านั้นที่ตอบโจทย์ทั้งหมดของชีวิตคุณ เพื่อที่จิตจะได้จดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นได้ วิธีการขอคือ
  1. การตั้งเป้าหมาย ว่า คุณต้องการอะไร?
  2. เขียนเป้าหมายลงไป หรือ อาจจะทำเป็นภาพความสำเร็จของคุณก็ได้
  3. ติดมันในตำแหน่งที่คุณจะเห็นได้ชัดตลอดเวลา
  4. นั่งดูภาพความสำเร็จนั้นทุกวัน โดยใช้เวลาประมาณ 5 -15 นาทีในการจินตนาการภาพความสำเร็จนั้น   
2. เชื่อ คือ การเชื่อว่าเราจะได้รับสิ่งนั้นแน่นอน
3. รับ คือ ทำตัวเหมือนว่าได้รับสิ่งนั้นแล้ว และรู้สึกว่าได้สิ่งนั้นแล้วจริงๆ และทำตัวในแนวเดียวกับสิ่งที่คุณจะเป็น เช่นคนที่ได้รับสิ่งนี้ควรมีความคิดอย่างไร ทำอย่างไร เวลาเจอปัญหาแก้อย่างไร
และคิดบวก

คิดอย่างไรคือการคิดบวก?
การคิดบวกคือการที่เราคิดว่าทุกอย่าที่เกิดกับชีวิตเราดีหมด...ให้คิดว่าทุกๆวันเราจะเจอแต่สิ่งที่ดี...และเวลาเราเจออะไรมากระทบใจในทางที่ไม่ดีก็ให้หาเหตุผลให้คิดบวกได้เสมอ...โดยถ้าเจอเรื่องที่ไม่ใหญ่มากเราจะหาเหตุผลได้เร็ว...แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ เหตุผลมักจะมาให้เห็นเป็นเดือนหรือเป็นปี


ในตอนต่อไป จะกล่าวถึง กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction) กับ เบอร์โทรศัพท์  ว่ามันเชื่อมโยงกันอย่างไร?

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มารู้จักกับ "จลนลัคน์ศาสตร์" หรือการออกแบบเบอร์โทรศัพท์ส่วนบุคคลกัน


จลนลัคน์ศาสตร์ (ชื่อนี้ผมตั้งเอง 555+) เป็นทฤษฎีที่เอามาใช้คู่กับ "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" ที่ใช้กันอยู่แพร่หลาย คิดเพื่อนำมาอธิบายหลายๆเหตุผลที่ "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  ไม่สามารถอธิบายได้ เช่น
1. บางคนเปลี่ยนมาใช้  xxx-789xxxx ซึ่งเป็นเลขที่ดีไม่เสียเลย แต่กลับเป็นหนี้
2. บางคนใช้ xxx-688xxx8 เอา "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" ไปวิเคราะห์ ว่าเขาต้องเป็นหนี้เป็นสินแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่า รายได้เขามีมาก
3. บางคนใช้เลขตามหลัก "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  ไม่มีเลขเงินรั่วแต่กลับเก็บเงินไม่อยู่
4. บางคนเปลี่ยนเบอร์ด้วย "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  แต่รายได้หรือยอดขายกับตกลง
5.บางคนเปลี่ยนเบอร์ด้วย "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  ตั้งใจเสริมเรื่องความรัก แต่กลับเป็นโสด
ฯลฯ

เพราะนี่เป็นคำถามหลังไมค์ที่มีคนเข้ามาถาม และประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยพบเจอ ซึ่งโดยความเชื่อส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ไม่เชื่อว่า "เบอร์เดียวกันจะมีผลกับแต่ละคนเหมือนกัน" ซึ่งแต่ละคนจะได้รับผลข้างเคียงของตัวเลขที่ต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่า "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  จะอธิบายผิดนะ "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  อธิบายได้ถูกต้องครับ แต่ผลข้างเคียงของผู้ใช้ต่างหากที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น
1.พ่อของพี่ที่ผมรู้จักท่านนึงมีเลข 02 ในตำแหน่งเบอร์ 7 ตัวท้าย ถ้าทำนายเรื่องการเงิน จะทายว่าเงินรั่วเก็บเงินไม่อยู่ แต่พ่อของพี่ท่านนี้กลับมีสินทรัพย์หลายล้านบาท คิดว่า "ศาสตร์พลังงานตัวเลข"  ทำนายผิดหรือ ? คำตอบคือ ป่าวครับ 02 ในเบอร์ท่านกลับส่งผลเรื่องสุขภาพมากกว่าการเงินครับ เพราะท่านเป็นโรคหัวใจ ซึ่ง 02 ให้โทษในเรื่องโรคภัยที่เกี่ยวกับทรวงอกครับ

2.พี่ที่รู้จักท่านนึงเป็นหมอ ใช้เลข xxx-688xxx8 "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" เบื้องต้นคือ "หาเก่งใช้เก่ง หมุนเงินไม่ทันอาจทำให้เป็นหนี้เป็นสิน" แต่ของท่านนี้ "หาเก่งใช้เก่ง มีเงินใช้หลายแสนบาท (บางทีอาจถึงหลักล้านต่อเดือน) แต่ไม่ค่อยเก็บเงินครับ" ก็ถือว่าการทำนายยังถูกอยู่

3.คนรู้จักท่านนึงใช้เลข xxx-5555xx5 "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" จะทำนายว่าเป็น คนขาดเสน่ห์ เชื่องช้า คิดมาก ตัดสินใจช้า อาจฝักใฝ่เขาวัดวาซึ่งก็จริงแค่ เชื่องช้า คิดมาก ตัดสินใจช้า แต่บุคคลท่านนี้กลับมีแฟนสาวสวย (จนผมอิจฉาเลย) และมักมีเพศตรงข้ามมาติดพันเขาเสมอๆ

ซึ่งตัวผมสรุปได้ว่า "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" ยังมีความถูกต้องอยู่ถึง 60-70% เลยทีเดียว แต่ยังไม่สามารถอธิบายผลข้างเคียงต่อผู้ใช้เบอร์นั้นๆได้

"จลนลัคน์ศาสตร์" ได้ให้คำอธิบายบางอย่างไว้เช่น กรณีผู้ใช้ 28 หรือ 82 โดยอธิบายไว้ว่า
1.บางคนใช้ 28 82 จะทำให้มีรายได้ก้อนใหญ่จากคู่ค้า หรือ รายได้จากการค้าขาย
2.บางคนที่ใช้ 28 82 จะต้องหมุนเงินก้อนใหญ่ โดยจะต้องกู้ยืมเงินมาลงทุนเท่านั้นถึงจะมีรายได้ที่ดี
3.บางคนที่ใช้ 28 82 จะต้องมีปัญหากับหุ้นส่วน
4.บางคนที่ใช้ 28 82 จะต้องมีปัญหากับลูกน้องบริวาร
5.บางคนใช้ 28 82 ก็จะได้รับมรดกจากญาติผู้ใหญ่ ไม่ก็รายได้ที่เพิ่มพูลขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ต้องใช้แรงมาก
6.บางคนใช้ 28 82 ก็จะต้องทำงานอย่างหนัก
ฯลฯ
**** กรณีของ 789 ก็คล้ายคลึงกัน ****


"จลนลัคน์ศาสตร์" จึงถูกนำมาใช้ร่วมกับ  "ศาสตร์พลังงานตัวเลข" เพื่อใช้การออกแบบเบอร์เฉพาะบุคคล ให้กับผู้ที่มาซื้อเบอร์กับ SIM 323 เพื่อที่ท่านจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งบางครั้งคุณอาจมีตัวเลขแปลกๆปนเข้าไปและรู้สึกไม่ค่อยชอบเลขนั้นๆด้วย ซึ่งหลายๆเลขจำเป็นต้องมีครับเพื่อที่จะส่งเสริมให้คุณได้ในสิ่งที่ต้องการ ขอแค่ข้อมูลที่ผมต้องการไม่คลาดเคลื่อน ท่านจะได้รับเบอร์ที่ถูกต้องแน่นอนครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการใช้เบอร์ที่ถูกต้องกับตัวท่านนะครับ

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การเลือกเลขส่งเสริมเรื่อง "การเงิน และ โชคลาภ" ของคนแต่ละลัคนาราศี


มีหลายๆครั้งที่ผม ได้วิเคราะห์เบอร์ให้ผู้คน ซึ่งหลายๆคนก็ใช่เลขที่ดีตามหลักการของการวางเบอร์มาตรฐานที่ถูกต้อง แต่เบอร์เหล่านั้นกลับไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เลย (ทั้งๆที่ซื้อมาจากคนอื่นก็แพงนะ)...
บางครั้งเจอคนที่ไม่มีกลุ่มเลขการเงินเลย ก็มีรายได้ที่ดี ...บางครั้งเปลี่ยนเบอร์ให้บางคนไม่มีกลุ่มเลขโชคลาภแต่เขากลับถูกหวยบ่อยมากกว่าคนที่มีกลุ่มเลขโชคลาภ
ซึ่งบทความนี้ผมได้สรุปเลขไว้ให้ โดยใช้หลักการที่ผมให้ชื่อว่า "จลนลัคน์ศาสตร์" วิเคราะห์ออกมาเพื่อท่านผู้อ่านได้นำไปใช้ส่งเสริมการเงินและโชคลาภ ให้เอาเลขที่ผมนำเสนอต่อไปนี้ใส่ไปในเบอร์โทรของท่านตำแหน่งไหนก็ได้ใน 7 ตัวท้าย

1.หาลัคนาราศีของท่านจากเว็บ : http://tongzweb.com/lakana/ หรือ เว็บมหาหมอดู หรือ ดูจากแผนภาพนี้
หากท่านไม่ทราบเวลาแน่ชัด ต้องลองหาผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์มากเป็นพิเศษมาช่วยหาโดยการตรวจสอบจากเหตุการณ์

 2.เลือกเลขของท่านตามลัคนาราศีตามรูปนี้

ขอให้ทุกท่านโชคดีเรื่องโชคลาภและการเงินนะครับ

หมายเหตุ สิ่งนี้เกิดจากการสังเกตุของผมซึ่งอาจไปขัดกับหลักการของอาจารย์บางท่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการเชื่อนะครับ

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กรรมที่ทำให้ต้องเดือดร้อนเรื่องการเงิน กรรมที่เงินขาดมือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง


เขียนโดย ธ.ธรรมรักษ์ เมื่อ 7/6/2012



เหตุจากกรรมเก่า
 

คนที่มีปัญหาเรื่องเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ อาจจะมาจากในอดีตชาตินั้นทำทานมาไม่ครบ ซึ่งหมายถึง เวลาในการทำทานนั้นยังมีจิตที่ตกอยู่ยังคงเสียดายทานที่ทำไป อย่างเช่น ตั้งใจว่าจะทำทานด้วยอาหารคาวหวาน 4 อย่าง ผลไม้ 5 อย่าง พอเอาเข้าจริงหรือเวลาลงมือปฏิบัติในทานนั้นกลับรู้สึกเสียดายหรือว่าด้วยเหตุอะไรก็ตามจึงทำทานนั้นน้อยลงไปจากที่เคยตั้งใจไว้ เช่น ไปลดปริมาณของลงเสีย ให้เหลือเพียงอย่างหรือสองอย่างไม่ตรงกับที่ตั้งใจไว้ หรือลดคุณภาพวัตถุทานที่จะทำนั้นด้วยความเสียดายเป็นเหตุ

ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านได้เมตตากล่าวถึงการตั้งใจสร้างบุญหรือไปรับปากพระสงฆ์ แล้วไม่ได้ทำ หรือทำเกินที่รับปาก ที่จะมีผลต่อเรื่องเงินทองมาก โดยให้พิจารณาดังนี้

1.ทำน้อยกว่าที่ตั้งใจ เงินทองจะขาดมือบ่อย มักจะมีแต่ปัญหาการเงินตลอดเวลา คาดหวังว่าจะได้เงินมักจะพลาดไม่ได้ดังใจหวัง

2.ทำเท่ากับที่ตั้งใจ จะมีความสุขตามบุญที่ทำ เงินทองไม่ขาดมือ มีใช้แต่ไม่ค่อยเหลือเก็บ ยังช่วยเหลือใครไม่ได้หรือช่วยได้แต่น้อยมาก

3.ทำมากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ เงินทองจะมากมายเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวอยู่ๆ ก็มีเงินทองเข้ามาและเป็นถูกต้องถูกธรรมด้วย และสามารถไปช่วยเหลือคนอื่นได้ตลอดเวลาเป็นบุญงอกที่งอกเงยทำให้คนผู้นั้นพบกับความสุขความเจริญ ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้ใครอยากรวย อยากมีเงินก็ขอให้คิดเอาเองว่าจะทำบุญแบบไหนดีเมื่อได้ตั้งใจเอาไว้แล้ว

การที่เงินทองต้องขาดมือบ่อยๆ หมุนไม่ทันนั้นอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการที่วัตถุทานที่เอามาสร้างบุญนั้นไม่บริสุทธิ์อาจจะมีบาปเจือปน คือ วัตถุทานนั้นอาจจะซื้อมาด้วยเงินที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นเงินมาจากการเล่นการพนัน เงินมาจากการเบียดเบียนผู้อื่น หรือมาจากการทำร้าย ทำลายชีวิตเบียดเบียนผู้อื่น เช่น การไปฆ่าไก่มาต้มข่าถวายพระ การไปเด็ดดอกไม้จากสวนเพื่อนบ้านโดยไม่ขออนุญาตเอามาถวายพระ เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้บุญกุศลที่เคยทำมาจึงมีลักษณะแบบครึ่งๆ กลางๆ ขาดๆ หายๆ เดี๋ยวก็มีเงินทองมาก พอผ่านไประยะเงินขาดมือหมุนไม่ทัน จะไปหยิบยืมใครเขาก็ยากเพราะไม่มีบุญเชื่อมกับเขาไว้พอ หรือเกิดความยากลำบากเจอกับอุปสรรคกว่าจะได้รับการช่วยเหลือ บางครั้งต้องโดนเขาต่อว่าต่อขานหรือดูถูกเอาด้วยซ้ำ คนที่เขาต่อว่าดูถูกเหล่านี้ เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรคือเคยเป็นเจ้าของวัตถุทานที่เราเคยไปขโมยเขามานั่นเอง

เหตุจากกรรมใหม่ 

การที่เราหาเงินได้แบบชักหน้าไม่ถึงหลังนั้น ไม่ใช่ว่าจะเกิดจากกรรมเก่าเพียงอย่างเดียว เราต้องมาพิจารณาว่าเราทำเหตุให้ตรงกับผลหรือไม่ด้วย สิ่งที่เราทำนั้นสมบูรณ์เพียงพอที่จะทำให้มีเงินทองใช้อย่างไม่ขาดมือหรือไม่ ถ้าดูแล้วว่ายังไม่พอ ยังไม่ถึงเหตุต้องเปลี่ยนกรรมของตนเสีย ทำให้สมบูรณ์พร้อมยิ่งขึ้น เหมือนดังเราปลูกต้นมะม่วง หวังจะได้ผลมะม่วงที่สมบูรณ์ แต่เราขาดความเพียรทีจะไปรดน้ำ ใส่ปุ๋ย หมั่นกำจัดวัชพืช ปล่อยให้ต้นมะม่วงเติบโตไปตามเวรตามกรรม ผลมะม่วงที่ได้มานั้นคงไม่สมบูรณ์เท่ากับเราเอาใจใส่ดูแลอยู่เสมอ

ในการประกอบอาชีพ หากเรายังเป็นคนใจเร็ว ตัดสินพลาดในบางครั้งอาจจะทำให้ชวดโอกาสสำคัญ ก็ให้ใช้ปัญญาตรึกตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ หากบอกว่าไม่มีความรู้ความสามารถก็ต้องพยายามขวนขวายเรียนรู้ เพื่อเอาความรู้นั้นมาเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นเงิน

ยังเป็นคนที่ใช้เงินด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล ก็หันกลับด้านความคิดเสีย ให้ดูว่าของที่เราจะซื้อนั้นสมควรหรือไม่ที่จะซื้อ เมื่อซื้อแล้วทำให้เราต้องเงินขาดมือหรือไม่ ของที่จะซื้อรอได้อีกหรือไม่ พิจารณาให้ดี ๆ ส่วนหนึ่งที่เงินขาดมือมาจากการซื้อของโดยไม่คิดเน้นซื้อของโดยมุ่งประโยชน์เทียมมากกว่าประโยชน์แท้

เช่น เงินเดือนน้อยอยู่แล้วแต่ชอบซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ เป็นประจำ เปลี่ยนมือถือทุก 3 เดือนโดยเน้นเรื่องฟังก์ชั่นใช้งานให้หลากหลายอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่จริงแล้วโทรศัพท์ก็เป็นเพียงอุปกรณ์เอาไว้ติดต่อสื่อสารรับส่งข้อมูลเท่านั้น คือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหันมาประหยัดเน้นประโยชน์แท้มากกว่าประโยชน์เทียม ยังเป็นคนไม่อดออม สุรุ่ยสุร่าย ออกไปกินข้าวนอกบ้านทุกวัน รายจ่ายมากกว่ารายได้ขาดปัญญาในการใช้เงิน อย่างนี้ก็ต้องมีปัญหาทางการเงินอยู่ตลอดเวลา การแก้ไขควรเป็นไปทั้งสองทางทั้งทางโลกและทางธรรมเพื่อให้เกิดการเสริมแรงบุญซึ่งกันและกัน

การแก้ไขในทางโลก

ทุกคนย่อมมีปัญหาเรื่องการหารายได้กันอยู่ทุกคน ยิ่งคนที่มีปัญหาครอบครัวปัญหาเรื่องเงินหนักอยู่แล้วต้องทำเป็นอย่างยิ่งอย่างน้อยให้ผลกรรมนั้นบรรเทาลง ใครที่เป็นหนี้เป็นสินคนอื่น ก็อย่าหลบ อย่าหนีให้ติดต่อเจ้าหนี้เขาเสีย ขอโทษเขาและขอโอกาสเขาที่จะแก้ตัว ขอผ่อนใช้เขาไปจะน้อยหรือมากก็ต้องทำ ถ้าทำไม่ได้อย่าไปรับปากส่งเดชจะทำให้เกิดกรรมใหม่ที่หนักกว่ากรรมเก่ายิ่งกว่าเดิมเป็นการสร้างรอยแผลและผูกแค้นให้กับเจ้าหนี้อีก

การแสดงความรับผิดชอบและจริงใจในการจะรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็จะเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดต่อเจ้าหนี้ ให้เขาเกิดความเชื่อมั่นว่าคนเป็นลูกหนี้จะไม่เบี้ยวหรือหนีหายไปส่งผลให้กรรมทั้งหลายอาจคลายตัวให้เบาบางลง

นอกจากนั้นเรายังต้องพิจารณาตนเองให้สม่ำเสมอว่ายังเป็นคนที่หาเงินไม่คล่องหรือไม่ ถ้าเพราะเราไม่มีช่องทาง ไม่มีคนสนับสนุนก็ไปหาเสีย ไปเปิดประตูโอกาสด้วยตัวเอง นิสัยที่ชอบอวดตัว อวดเบ่งก็ควรจะลดลงบ้าง อย่าทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาล หัดเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน คนอื่นเขาจะได้เมตตาช่วยเหลือได้ ยิ่งมีบุญร่วมกันมายิ่งง่าย เพียงอุทิศบุญ เพื่อเชื่อมบุญกับท่าน เขาจะรู้สึกได้ด้วยจิตและช่วยเหลือเราแน่นอน

การแก้ไขในทางกรรม

ทางแก้ไขในเรื่องนี้แบบเร่งด่วนให้ได้ผลทันใจนั้น ควรหมั่นทำทานเสียใหม่ประกอบไปด้วยทาน 3 อย่างที่เกิดบุญมากอย่างสม่ำเสมอคือ วัตถุทาน ธรรมทานและอภัยทาน

-วัตถุทาน ที่จะทำ เอาแบบที่ตั้งใจทำแบบไหน แค่ไหนให้ทำแบบนั้น อยากทำ 1บาท ก็ 1 บาท อยากทำ 100 บาท ก็ 100 บาท อยากถวายข้าวเปล่าก็ข้าวเปล่าไม่ต้องเสียดายชักเก็บเอาไว้ ในการทำทานทุกครั้งอย่าให้จิตตกไปพะวงว่าคนที่รับทานนั้นเขาจะเอาวัตถุทานหรือปัจจัยนั้นไปทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสงฆ์ คนทั่วไปแม้แต่ขอทานก็อย่าไปคิด เอาแบบให้แล้วให้เลยขาดกัน ยิ่งวัตถุทานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต้องใช้ในชีวิตของเราแต่เราเสียสละให้คนอื่นได้ จะยิ่งมีอานิสงส์มาก ดังในพุทธกาลที่คนยากจนมากๆ ถวายผ้านุ่ง ถวายข้าวก้อนสุดท้ายให้กับพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า ด้วยอานิสงส์แห่งบุญคนยากจนกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในพริบตา

-ธรรมทาน คือ การเอาความรู้ไปช่วยให้เขาพ้นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกและทางธรรม เช่น ไปสอนเขาปลูกผักให้ถูกต้อง ไปสอนเขาทำอาหารให้ดีให้เก่ง สอนวิชาช่างไปทำเป็นอาชีพได้ บอกทางให้เขาได้เดินชีวิตถูกต้อง การให้กำลังใจเขาให้สู้ชีวิต การไปร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ หรือแม้แต่เราไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ก็เป็นผู้นำบุญไปบอกไปเชิญชวนให้คนมาร่วมพิมพ์หนังสือ หรือชวนคนทำบุญ ถือว่าเป็นธรรมทานทั้งสิ้น

-อภัยทาน เรื่องนี้เป็นบุญใหญ่ที่สุด ทำลักษณะการทำนั้นทำได้ง่ายด้วยตัวเองไม่ต้องเสียเงินทอง แต่อภัยทานแม้รูปแบบจะทำได้ง่าย แต่ทว่ากลับทำได้ยากที่สุดในทานทั้งหมดเพราะว่าวิสัยของปุถุชนย่อมมีความโกรธเคือง อาฆาตพยาบาท อยู่ในกมลสันดานอยู่แล้ว ซึ่งต้องหมั่นฝึกฝนทำให้เป็นประจำ ซึ่งถ้ามีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาเป็นหลักจะช่วยให้ง่ายขึ้นและสำเร็จได้แบบสบายๆ

การให้อภัยนั้นควรเริ่มจากการตั้งจิตให้สงบเสียก่อน คือให้ละจากอารมณ์โกรธเคียดแค้นใด ๆให้ได้ก่อน แม้ความขัดเคืองในใจยังมีอยู่แต่อย่างไรก็ตามต้องทำให้จิตสงบนิ่งให้ได้ ขอให้คิดว่ากรรมใดๆ เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเราเคยไปสร้างกรรมเวรไว้กับเขาเมื่อถึงเวลาเขาก็ต้องมาเอาคืน เป็นการดีแล้วที่เราใช้หนี้เขาไปเสียจะได้ไม่ติดค้างกันอีกหมดสิ้นกันเสียที จากนั้นให้อโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรเขาเสียไม่ให้มีเวรกรรมติดค้างผูกพันกันอีก

ต่อมาคือ ให้อภัยต่อคนรอบข้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครเป็นพ่อแม่ พี่น้อง ลูก ญาติมิตร คนร่วมงานกัน คู่ค้า ลูกค้า สัตว์เลี้ยง สรรพสัตว์ต่างๆ หมั่นให้อภัยทานบ่อยๆ จิตเราจะมีกำลังมาก ทำอะไรก็สำเร็จไม่มีกรรมมาเหนี่ยวมาขวางเอาไว้ แต่ต้องให้อภัยทั้งหมดทั้งกาย วาจา และใจ และที่สำคัญพยายามให้คนรอบข้างที่มีส่วนในชีวิตของเราให้อโหสิกรรมต่อกันและกัน

การสร้างทานใหญ่ด้วย วัตถุทาน ธรรมทาน อภัยทาน ควรทำในทุกๆ วัน ยิ่งวันละหลายครั้งก็จะยิ่งดีขึ้นอย่างทันตาเห็นเคล็ดลับสำคัญคือ การทำทานให้เป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก

เพราะยิ่งเกิดประโยชน์มากเท่าใด โชคลาภจะหลั่งไหลมาสู่ไม่ขาดสาย เงินทองจะไม่ขาดมือ ไม่มีขัดสน ด้วยอานิสงส์บุญที่ทำลงไป เช่น ร่วมสร้างถนน โรงพยาบาล ร่วมซื้อเครื่องมือแพทย์ สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สร้างมหาเจดีย์ โรงทาน เป็นต้น

เมื่อทำทานครั้งใดเสร็จสิ้นให้อุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรเขาทันที พูดด้วยภาษาง่ายๆ ก็ได้ให้เขามารับบุญกุศลนี้ ถ้าเขาพอใจแล้ว ยินดีในบุญแล้วขอให้เขาอโหสิกรรมให้ ถอนตัวไปจากการขัดขวางในเรื่องเงินนี้ ต้องระบุไปอย่างเจาะจงเลย หลายคนไม่บอกแบบเจาะจงว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร เจ้ากรรมนายเวรเขานึกว่าเป็นดอกเบี้ยกรรม เขาจึงเฉยๆ ไม่ถอนตัวออกไปเพราะเขาไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ จึงต้องบอกอย่างละเอียด

อีกทั้งต้องอุทิศบุญให้กับเทวดาประจำตัว ดวงวิญญาณที่ดูแลคุ้มครองเราอยู่ ซึ่งจะบอกให้ทราบว่าทุกคนมีเทวดาประจำตัวแน่นอนอย่างน้อย 2 ตนขึ้นไปและดวงวิญญาณที่คุ้มครองด้วย ท่านเหล่านี้มาจากคนที่รักเรา เมตตาเราอย่างจริงใจและมีกรรมดีผูกพันกันมา อาจจะเป็นบรรพบุรุษในอดีตชาติ พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พี่น้อง ลูก ญาติหรือเพื่อนสนิท ครูบาอาจารย์ที่ตายไปแล้วและอยู่ในภพภูมิอื่น ท่านยังเป็นห่วงจึงมาดูแลเราอยู่

เราต้องหมั่นอุทิศบุญส่งไปให้ท่านเพื่อให้ท่านมีบุญเพิ่มขึ้น และสายใยแห่งบุญที่เหนียวแน่นมั่นคงท่านจะรักและเมตตาเรามากขึ้นไปอีก ท่านเหล่านี้มีอำนาจในระดับหนึ่งที่จะช่วยดลใจให้เราพบช่องทางการหาเงินที่ถูกต้องถูกธรรม ไม่มีกรรมชั่วติดมาด้วย ช่วยดลใจให้เราพบคนดีที่จะช่วยเหลือ ดลใจให้เราพบโชคลาภที่ถึงเวลาจะได้จากที่เคยช้าก็จะเร็วขึ้น ส่งผลให้มีเงินทองไม่ขาดมือแน่นอน

การสร้างทานใหญ่ด้วย วัตถุทาน ธรรมทาน อภัยทาน แล้วอุทิศบุญไปตามที่บอกไว้ ควรทำในทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ ทุกท่านจะเห็นผลแบบอัศจรรย์ พร้อมกับเปลี่ยนกรรมใหม่ให้ตรงกับผลที่อยากได้คือ อยากมีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือ บอกได้คำเดียวว่า ใครทำ ใครก็รวยและยิ่งทำ ยิ่งมีเงินมากตามที่ปรารถนาทุกประการ

ที่มา : http://www.torthammarak.com/modules/smartsection/item.php?itemid=190

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เคล็ดวิชาที่ใช้แก้ไขปัญหาเรื่องเงินแบบเร่งด่วนสุด


สำหรับท่านที่ดวงตกและมีปัญหาเรื่องเงินอย่างหนักนั้น นอกจากที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว ขอแนะนำเพิ่มเติมถ้าอยากจะให้ดีขึ้นแบบทันตาเห็น ให้ทำดังนี้

– ต้องสวดมนต์พระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอย่างน้อยวันละ 9 จบ ในทุกวันถ้าทำได้ว่างเมื่อไหร่ก็ให้สวดเมื่อนั้น ถ้าติดขัดการเงินแบบหนักหนาสาหัสสากรรจ์เจียนจะตายเสียให้ได้ให้ตั้งใจท่องพระคาถาวันละ 108 จบ

สำคัญมากๆ ก็คือในเวลาที่ท่องนั้น ห้ามเอาจิตไปคิดถึงเรื่องเงินแบบให้ได้มาเร็ว ให้ถูกหวย ให้มีลาภใหญ่หรือความโลภอะไรก็ตามเพราะกรรมทางใจไม่ดีเหล่านี้จะไปหน่วงกรรมดีและสิ่งที่ควรได้ ต้องปล่อยใจให้สบายๆ คิดว่าเป็นการสวดเพื่อโมทนาพระคุณความดีของหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำก็พอ

– ต้องใส่บาตรทุกวันหรือหมั่นทำบุญทุกวันไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล ภาวนา แล้วอุทิศบุญให้กับหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรที่อยู่ที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี หากมีโอกาสให้ไปไหว้ท่านที่วัดท่าซุงเลย ถ้าไม่มีเวลาให้ดูในรูปประกอบบทนี้

อุทิศบุญให้กับพรหมเทพเทวดาที่รักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดท่าซุงทั้งหมดและที่ดูแลรักษาหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา อุทิศบุญเพื่อโมทนาพระคุณความดีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ครูผึ้ง ครูแจงและทุกท่านที่เอาพระคาถามาเผยแพร่ อุทิศบุญให้เทวดารักษาตัว เทวดาที่ดูแลบ้านเรือนและร้านค้า สถานที่ทำงาน

อุทิศบุญให้เจ้ากรรมเจ้ากรรมนายเวรแบบต้องเฉพาะเจาะจง เรามีเรื่องใดที่ต้องเร่งแก้ไขด่วนให้กล่าวถึงเจ้ากรรมนายเวรแบบนั้นเลย เช่น โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ตกงานอยู่ในขณะนี้ หรือโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องเงินอย่างหนักในขณะนี้ หรือโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดปัญหาทางการค้าอย่างรุนแรงในขณะนี้ เป็นต้น

– รักษาศีล 5 เท่าชีวิตเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศีลข้อที่ 4 และศีลข้อที่ 5 ต้องถือสัจจะห้ามผิดคำพูดเป็นอันเด็ดขาด คำพูดนี้สำคัญมากแม้แต่มหาโจรยังถือข้อนี้เป็นอันดับแรกเลย และห้ามกินเหล้าเมายาทั้งสิ้น และเพราะถ้าผิดศีล 2 ข้อนี้แล้ว ถือเป็นกรรมตรงที่จะไปขัดขวางเรื่องดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตไม่ให้เกิดขึ้นเลย

– เมื่อสวดพระคาถาเสร็จแล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานกล่าวดังนี้

“ขอบุญบารมีแห่งพระคาถา หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ โปรดดลบันดาลให้….(ตามที่เราปรารถนาให้เกิดขึ้น และต้องเป็นเรื่องเดียว ถ้าเรื่องเงินก็เงิน จำนวนเท่าไรก็ต้องเท่านั้น เรื่องการค้าก็การค้า อย่าขอมั่วไปหมด เมื่อได้เรื่องใดเรื่องหนึ่งค่อยขอเรื่องต่อไปที่ต้องการ อีกทั้งห้ามบนบานติดสินบนเด็ดขาด)

เคล็ดวิชานี้ใช้ได้ผลมามากมายทั้งคนที่ตกงานหางานทำไม่ได้ คนที่เป็นหนี้สินที่แทบฆ่าตัวตาย คนที่สิ้นหวังในชีวิต รอดมาแล้วทั้งนั้น แต่ต้องทำจริง อย่าทำเล่นหากท่านทำได้ทำครบถ้วนทุกประการที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำแล้ว  รับรองว่าทุกท่านจะได้รู้ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตด้วยตัวเองในเวลาไม่นานนัก

พระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

ก่อนสวดพระคาถาให้ตั้งจิตให้นิ่ง ท่อง
 *** นะโมฯ 3 จบ ****

สัมปจิตฉามิ

นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

พรหมมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม

มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เมมิเตพาหุหะติ                

พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา

วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

สัมปติจฉามิ

เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ

(***สวดทุกวันอย่างน้อย 9 จบถ้าดวงตกหนักมากหรือการเงินติดขัด การค้ามีปัญหา มีแต่เรื่องร้ายๆ ให้สวด 108 จบหรือมากได้ตามกำลังศรัทธา คาถาบทนี้กล่าวไว้ในบทแรกแล้ว แต่ขออนุญาตนำมาลงซ้ำ เพราะตรงกับการแก้ไขในเรื่องนี้โดยเฉพาะ)


การอธิฐานพิเศษเมื่อดวงตก (ได้รับเมตตาจากอาจารย์คนเมืองบัว)

จุดธูป 39 ดอก ที่โล่งแจ้งนอกชายคาบ้าน

ช่วงเวลาจุด 06.00 น. ถึง 12.00 น.

* * ตั้งนะโม ฯ 3 จบ  **

ตั้งจิตให้นิ่งแล้วอธิษฐาน  ดังนี้

          “ ข้าพเจ้าชื่อ………………….นามสกุล…………………………..อายุ………..ปี (ถ้าเปลี่ยนชื่อให้กล่าวชื่อเดิม)

            ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ อีกทั้ง เทวดาที่คุ้มครองและท่านท้าวพระยายมราช จงได้โปรดสงเคราะห์ ระงับกรรมที่เป็น อกุศล  ที่มาตัดรอนชีวิต อายุ การเงิน การงาน ความสุขในครอบครัวไว้ก่อน เพื่อที่จะให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสสำเร็จประโยชน์ ในทุกสิ่ง เพื่อที่จะได้บำเพ็ญบารมี ทานศีลภาวนา ในการอันสมควร และขอให้บริวารอยู่ในปกครอง อุปสรรคในกิจการงานจงอย่ามีแก่ข้าพเจ้า”


หากอ่านแล้วเข้าใจทั้งหมดแล้วได้ลงมือทำ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถ้าทำครบถ้วนถูกต้อง ต่อให้ “ดวงตก” มีปัญหาเรื่องเงินแค่ไหน เราก็แก้ไขได้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย

พฤษภาคม 30, 2011 โดย ธ. ธรรมรักษ์

ที่มา : https://torthammarak.wordpress.com/2011/05/30/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%81%E0%B8%9A/

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิธีกรวดน้ำ (ที่ถูกต้อง)



การกรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำไว้แล้วไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วพร้อมทั้งรินน้ำให้ไหลลงไปที่พื้นดินหรือที่รองรับ แล้วเอาไปเทที่พื้นดินอีกต่อหนึ่งหรือรดที่โคนต้นไม้ก็ได้ เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน จึงขอแยกเป็นข้อๆ ดังนี้

1. การกรวดน้ำมี 2 วิธี คือ

กรวดน้ำเปียก คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
กรวดน้ำแห้ง คือ ไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนมอธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไปให้

2. การอุทิศผลบุญมี 2 วิธี คือ

อุทิศเจาะจง ได้แก่ การออกชื่อผู้ที่เราจะให้ท่านรับ เช่น ชื่อพ่อ แม่ ลูก หรือใครก็ได้
อุทิศไม่เจาะจง ได้แก่ การกล่าวรวมๆกันไป เช่น ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ทางที่ถูกควรทำทั้งสองวิธี คือผู้ที่มีคุณหรือมีเวรต่อกันมาก เราก็ควรอุทิศเจาะจง ที่เหลือก็อุทิศรวมๆ

3. น้ำกรวด

ควรเป็นน้ำที่สะอาด ไม่มีสีและกลิ่น และเมื่อกรวดก็ควรรินลงในที่สะอาดและไปเทในที่สะอาด และที่สำคัญ อย่ารินลงกระโถนหรือที่สกปรก

4. น้ำเป็นสื่อ - ดินเป็นพยาน

การกรวดน้ำมิใช่จะอุทิศไปให้ผู้ตายกินน้ำ แต่ใช้น้ำเป็นสื่อและใช้แผ่นดินเป็นพยาน
ให้รับรู้ในการอุทิศส่วนบุญ

5. ควรกรวดน้ำตอนไหนดี ?

ควรกรวดน้ำทันทีในขณะที่พระอนุโมทนาหรือหลังทำบุญเสร็จ แต่ถ้าไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่า ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ

- ถ้ามีเปรตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที

- การรอไปกรวดที่บ้านหรือกรวดภายหลัง บางครั้งก็อาจลืมไป ผู้ที่เขาตั้งใจรับก็อด ผู้ที่เราตั้งใจจะให้ก็ชวดไปด้วย

6. ควรรินน้ำตอนไหน ?

ควรเริ่มรินน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศ ในขณะที่พระผู้นำเริ่มสวดว่า “ยะถาวาริวะหาปูรา...”
และรินให้หมดเมือ่พระว่ามาถึง “…มะณิโชติระโส ยะถา...” พอพระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า
“สัพพีติโย วิวัชชันตุ...” เราก็พนมมือรับพรท่านไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง

7. ถ้ายังว่าบทกรวดน้ำไม่เสร็จ จะทำอย่างไร ?

ก็ควรใช้บทกรวดน้ำที่สั้นๆหรือใช้บทกรวดน้ำย่อก็ได้ เช่น “อิทัง โน ญาตีนังไหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขออุทิศส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ .... (ออกชื่อผู้ล่วงลับ) .... และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด”

หรือจะใช้แต่ภาษาไทยอย่างเดียวก็ได้ว่า “ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้ จงสำเร็จแก่ พ่อ แม่ ญาติ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณเจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับส่วนบุญกุศลครั้งนี้โดยเร็วพลัน และโดยทั่วถึงกันเทอญ” ส่วนบทยาวๆ เราควรเอาไว้กรวดส่วนตัว หรือกรวดในขณะทำวัตรสวดมนต์รวมกันก็ได้

ข้อสำคัญ ถ้าเป็นภาษาพระ ควรจะรู้คำแปลหรือความหมายด้วย ถ้าไม่รู้ความหมาย
ก็ควรใช้คำไทยอย่างเดียวดีกว่า เพราะป้องกันความโง่งมงายได้

8. อย่าทำน้ำสกปรกด้วยการเอานิ้วไปรอไว้

ควรรินให้ไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ และไม่ควรใช้วิธี เกาะตัวกันเป็นกลุ่มหรือเป็นทางเหมือนเล่นงูกินหาง ถ้าเป็นในงานพิธีต่างๆ ให้เจ้าภาพหรือประธาน รินน้ำกรวดเพียงคนเดียวหรือคู่เดียวก็พอ คนนอกนั้นก็พนมมือตั้งใจอุทิศไปให้

9. การทำบุญและอุทิศส่วนบุญ

ควรสำรวมจิตใจ อย่าให้จิตฟุ้งซ่าน ปลูกศรัทธา ความเชื่อ
และความเลื่อมใสให้มั่นคงในจิตใจ ผลของบุญและการอุทิศส่วนบุญย่อมมีอานิสงค์มาก
ผลบุญที่เราอุทิศไปให้ ถ้าไม่มีใครมารับก็ยังคงเป็นของเราอยู่ครบถ้วน ไม่มีผู้ใดจะมาโกงหรือแย่งชิงไปได้เลย

10. บุญเป็นของกายสิทธิ์

ยิ่งให้ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลยเราก็ยิ่งจะได้บุญหมดเลย

ที่มา : http://board.palungjit.org/f8/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-10-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A3-567642.html

คาถายันทุน (คาถาแก้เคล็ดฝันร้าย)



(*** นะโม ๓ จบ ***)


ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ 
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ 
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ 
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ



บทสวดคาถายันทุน แท้จริงคือ คาถาอภัยปริตร...
สวดบูชาป้องกันอันตรายต่างๆ ให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง อานุภาพเพื่อแก้ลางร้าย เหตุร้าย ฝันร้ายทำลายสิ่งอัปมงคลทั้งปวงให้มลายสิ้น แม้ว่าเกิดนิมิตฝันไม่ดี เกิดอาเพศสังหรณ์ใจไปในทางที่ไม่ดีให้สวดพระคาถานี้จะกลับให้เกิดเป็นความดีขึ้น แม้จะมีเคราะห์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้น ให้ทำน้ำมนต์อาบเสียด้วย และหากมีฝันดี ลางดี ก็เพิ่มพลังให้ดียิ่งขึ้น หมั่นเจริญภาวนาไว้ เกิดสิริมงคลยิ่งนัก สามารถสวดคาถาได้ตอนเช้าหลังจากตื่นนอน และก่อนนอนด้วย ยิ่งให้คุณแก่ผู้สวดภาวนา


คาถาอภัยปริตรพร้อมคำแปล

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

(นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า)

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมัง คะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

(นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระธรรมเจ้า)

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะสัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

(นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระสังฆเจ้า )

บทความที่ได้รับความนิยม